24 กรกฎาคม 2552

เบรคอย่างไรให้ระยะทางสั้นและหยุดเร็วที่สุด

ข้อมูลจากเว็บ www.etoyotaclub.net
- องค์ประกอบของระบบเบรคจะต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ (ไม่ว่าจะเบรครุนแรงหรือไม่ก็ตาม) เริ่มตั้งแต่ปริมาณน้ำมันเบรคในระบบ ซึ่งหากพร่องจากขีด MAX ก็จะต้องเติมด้วยน้ำมันเบรคใหม่เท่านั้น, ความหนาของผ้าเบรค-จานเบรค (ไม่คดด้วยนะครับ) และการรั่วซึมในระบบที่จะต้องไม่มีเด็ดขาด
- แรงดันลมยาง นอกจากสมรรถนะ, การบังคับควบคุมและอัตราการสิ้นเปลืองแล้ว แรงดันลมยางทั้ง 4 ล้อยังมีผลต่อการเบรคด้วยล่ะครับ เพราะถ้าแรงดันลมยางต่ำไป นอกจากจะกินแรงเครื่อง (และน้ำมัน), การบังคับควบคุมแย่ลงแล้ว ยังเพิ่มระยะทางในการเบรคอีกด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแรงดันลมยางที่มากเกินจะขจัดปัญหาดังกล่าว เนื่องจากหากแรงดันลมยางมากเกินไปก็จะทำให้ยางพองตัว ซึ่งก็จะไม่ได้ทำให้สมรรถนะที่ถ่ายทอดสู่พื้นถนนหรือเบรคดีขึ้นแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นเช็คคู่มือหรือสติ๊กเกอร์ระบุแรงดันลมและจัดตามนั้นไปเลยครับ
- สภาพของยาง ต่อให้เบรคของคุณเลอเลิศซักเพียงใด แต่หากว่ายางที่ทำหน้าที่สร้างแรงเสียดทานกับพื้นถนน หมดประสิทธิภาพในการสร้างแรงยึดเกาะ มันก็เท่านั้น ในที่นี้หมายถึงอายุการใช้งานของยาง, ความนิ่ม-แข็งและความหนาของเนื้อยางนั่นเองครับ อย่าลืมนะครับว่ารถทั้งคันมีเพียงยาง 4 เส้นเท่านั้นที่รองรับน้ำหนักและสร้างแรงเสียดทานกับพื้นถนน
- เทคนิคในการใช้งานของระบบป้องกันล็อค รถรุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้จะต้องมีระบบป้องกันล้อล็อค (ABS : Anti-Lock Braking System) ติดตัวมาเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องเข้าใจพื้นฐานของระบบดังกล่าวกันก่อนนะครับ ABS ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมรถได้ในขณะที่เบรค ควบคู่ไปกับคุณสมบัติในการลดระยะทางที่ใช้ในการเบรค เพราะฉะนั้นคุณมีหน้าที่เพียงออกแรงเหยียบ พร้อมด้วยการบังคับทิศทางเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องลดแรงเบรคหรือย้ำเบรคแต่อย่างใด
สรุป ขับรถด้วยความไม่ประมาณ จำกัดความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ทั้งความปลอดภัย และความประหยัดครับ

ไม่มีความคิดเห็น: